|
สวิฟท์พาเที่ยว ***ตอนที่ 2 ทะเลหมอก - ภูหินร่องกล้า - ลานหินปุ่ม - ผาชูธง** |
ทะเลหมอกยามเช้าที่ภูทับเบิก
เช้าวันรุ่งขึ้น...รีบตื่นมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นและ
ทะเลหมอกที่จุดชมวิวภูทับเบิกค่ะ ทางจากห้องพักค่อนข้างชัน ผนวกกับอากาศยามเช้าที่เบาบาง หายใจไม่ออกแทบแย่เลย ผลของการเป็นคนไม่ออกกำลังกายปรากฏให้เห็นชัดเชียว
พระอาทิตย์ขึ้นอยู่ไกลลิบๆ หมอกก็หนาแน่นอยู่ไกลๆ มองไปตรงที่น่าจะเป็นหมู่บ้านไกลออกไปมีหมอกปกคลุมทั่วเลย นึกในใจ..มาไม่หาข้อมูลก็งี้แหละ อดได้สัมผัสหมอกเลยเห็นไหม
|
แปลงกะหล่ำในตอนนี้ค่ะ ยังไม่โตเลย |
|
น้องหมาตัวเดิม ตื่นมาดูแลกันแต่เช้า |
ว่าแล้วก็ไปอาบน้ำแล้วหาข้าวเช้าทานพร้อมวางแผนการท่องเที่ยววันนี้ดีกว่าค่ะ เช้านี้น้ำก็ยังไม่ไหลนะ ต้องบอกคนงานก่อสร้างแถวนั้นเปิดให้ (บอกแล้วว่าที่พักใหม่ค่ะ ยังสร้างกันไม่เสร็จเลย) น้ำอุ่นระบบแก๊สนี่อุ่นไวดีค่ะ
เราเดินกลับมาที่ร้านชำ มีขายอาหารจานเดียวง่ายๆจานละ 50 บาทอยู่ด้วย ที่นั่งก็เป็นแบบเปิดโล่งให้ดูวิว ระหว่างนั่งรออาหารซักพักหมอกก็เริ่มลอยมาปกคลุมจนขาวไปหมดทั้งบริเวณค่ะ ดีใจจัง^^ มโนไปว่าตัวเองอยู่ใน The Mist หรือ Silent hill (แต่อย่างหลังนี่ต้องเป็นเมืองขี้เถ้าเนอะ)
|
ร้านชำและร้านอาหารตรงทับเบิกรีสอร์ท อยู่ก่อนทางลงไปที่พักเราพอดี |
|
50 บาทให้เยอะมากเลย กินไปดูหมอกไป ฟิน |
มองทางที่เราขับรถขึ้นภูทับเบิกมากันเมื่อวานตอนนี้ขาวโพลนไปหมดค่ะ ขับลงไปอันตรายแน่ๆ เลยตัดสินใจไปภูหินร่องกล้าแทน ไหนๆก็มาถึงนี่แล้วด้วย
มุ่งหน้าไปภูหินร่องกล้า
หลังจากที่ตัดสินใจไปภูหินร่องกล้าแล้ว ก็ขับรถย้อนมาทางเดิมที่เมื่อวานผ่านมาค่ะ ตรงทางแยกไปตามป้ายภูหินร่องกล้าเลย จะเจอด่านตั้งแต่จุดนี้เลยค่ะ จ่ายค่าเข้าภูกันไปคนละ 40 บาท รถคันละ30 ทางของภูหินร่องกล้านี่ไม่หฤโหดเท่าทางขึ้นภูทับเบิกค่ะ โค้งน้อยกว่าชันน้อยกว่า แต่พื้นผิวไม่ค่อยดีในบางจุด ส่วนหมอกมาไม่ถึงตรงนี้ ไม่มีอะไรมาบดบังทัศนวิสัยค่ะ ขับไปไกลพอควรก็เจอ
น้ำตกห้วยขมิ้นน้อยอยู่ทางซ้ายมือเป็นน้ำตกเล็กๆที่ทางเข้าไม่ไกลค่ะ แค่ 50 เมตร ลงมาเดินเล่นได้แบบไม่เสียเวลามาก
|
น้ำตกห้วยขมิ้นน้อย |
เราโฉบเข้าไปที่
ภูลมโลด้วยค่ะ ทางเข้าหมู่บ้านนี่ชันสุดๆ แต่ไปแล้วไม่รู้ว่าจะดูอะไรเลยกลับออกมา มุ่งหน้าสู่ภูหินร่องกล้าต่อ
ณ ภูหินร่องกล้า...หินซ้อน....ลานหินปุ่ม....ผาชูธง
ที่ภูหินร่องกล้านี่ ทางเข้าก็มีเพิงขายของอยู่เยอะ แต่วันนี้ก็ร้างอีกเช่นเดิมค่ะเปิดอยุ่แค่ร้านเดียวเอง มาหน้านี้แอบเหงาเหมือนกันนะ พี่สาวที่ทำงานบอกว่าในหน้าท่องเที่ยวตรงนี้จะมีกล้วยไม้และของอื่นๆมาขายเยอะแยะเลยค่ะ เราเดินไปดูแผนที่แวปนึงจนรู้ว่าเดินเวียนทางขวาแล้วจะเจอลานหินปุ่มแล้วก็เข้าไปเลย
|
แผนที่ภายในภูหินร่องกล้า |
“ภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งสมรภูมิแห่งความขัดแย้งเมื่อครั้งอดีตระหว่าง “รัฐบาล” ในยุคสมัยนั้น กับ “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)” ด้วยลักษณะภูมิประเทศของภูหินร่องกล้าซึ่งประกอบไปด้วยแนวภูผาหินอันสลับซับซ้อนและผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ทำให้ พคท.เลือกใช้สถานที่แห่งนี้เป็นฐานที่มั่นใหญ่.....ภายหลังเมื่อความขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่าย พคท.คลี่คลายลง..... “ภูหินร่องกล้า” ก็ได้รับการจัดตั้งให้กลายเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2526 ในท้ายที่สุด
ที่อุทยานนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติมากๆค่ะ ไม่ค่อยมีสิ่งก่อสร้างรกสายตาเท่าไหร่ แม้แต่ทางเดินหรือป้ายบอกทางก็ทำเท่าที่จำเป็น เพราะงั้นตอนเดินก็ต้องดูไลน์ให้ดีว่าควรเดินต่อไปตรงจุดไหนนะคะ (ก็คือจุดที่ดูเรียบที่สุดหรือไม่ช่องทางพอเดินนั่นแหละค่ะ ไม่ต้องบุกป่าฝ่าดง ถางทางกันเองนะ) ที่นี่จะเป็นหินขนาดใหญ่มากๆ กับมีต้นไม้ดอกไม้เล็กๆแซมอยู่ค่ะ ต้นไม้สูงๆก็พอมีแต่ใบไม่หนามาก
เดินทวนเข็มนาฬิกาไปเรื่อยๆ จะเจอหินซ้อนอยู่ ไปอีกหน่อยจะเจอลานหินปุ่มค่ะ สภาพหินแบบไม่น่าเชื่อว่าธรรมชาติจะสร้างออกมาได้สวยและแปลกแบบนี้ ตรงจุดชมวิวลานหินปุ่มนี่ปลายๆ เหมือนเป็นผาแยกออกไปเลยค่ะ มีช่องกว้างประมาณ 1 เมตรกั้นอยู่ แล้วก็สูงจนไม่กล้ามองข้างล่าง คุณแฟนกระโดดข้ามไป..ห๊ะ!! อันตรายนะนั่น เรายอมแพ้นั่งยองๆอยู่ตรงนั้นแหละค่ะ แต่พอกวาดตามองไปทางขวา มีสะพานไม้เล็กๆให้เดินข้าม แถมมีพุ่มไม้บังไม่ให้หวิวมากด้วย ก็เลยได้เดินข้ามไปตรงส่วนปลายซะที (ฝากถึงทุกคนเลยค่ะ อย่ากระโดดข้ามแบบแฟนเรานะ ถึงจะขายาวยังไง ปลอดภัยไว้ก่อนเถอะ คนยืนดูหัวใจจะวาย)
|
หินซ้อน |
|
ใกล้ลานหินปุ่มแล้วค่ะ |
|
ถึงแล้ว ลานหินปุ่ม |
|
ช่องว่างระหว่างลาน ทั้งกว้างและลึก |
|
ตรงต้นไม้ด้านขวาของภาพ มีสะพานไม้เล็กๆอยู่ค่ะ |
ณ จุดนี้วิวสวยจริงๆค่ะ มองไปได้ไกลมากๆ และวิวที่เห็นคือภูเขาหลายๆลูกที่ยังเขียวขจีไม่ใช่ภูเขาหัวโล้น แถมยังมีเมฆหมอกปกคลุมหลายๆยอดเขาเลยด้วย ดูแล้วสดชื่นจริงๆ (เดินดูด้วยความระมัดระวังนะคะ ขอย้ำเลย พื้นไม่เรียบ พลาดสะดุดทีร่วงไปศพหาไม่เจอเลยนะ)
กำลังดูวิวเพลินๆ ฝนเริ่มลงเม็ดค่ะ ภาวนาให้มันไม่ตกหนัก แต่การภาวนานี้ไม่สำเร็จค่ะ ระหว่างเดินออกจากลานหินปุ่มมุ่งหน้าไปผาชูธง ฝนก็เทลงมาอย่างหนักเรียกได้ว่าพายุเลย เพราะลงเม็ดทั้งใหญ่เล็กถี่ยิบ ต้นไม้ที่นี่ก็ช่างโปร่งบางไม่ช่วยกันอะไรเลย ทั้งกล้องและมือถือของเรายัดใส่ไว้ในกระเป๋ากล้องหมดแล้วตั้งแต่ฝนเริ่มลงเม็ดค่ะ เอามาอุ้มไว้ข้างหน้าใช้แจ๊คเก็ตยีนส์ห่ออีก แต่ด้วยความแรงขนาดนี้ถ้าเดินต่อไปคงไม่รอดพักหมดทุกชิ้นแน่ๆ โชคยังดีที่วิ่งไปซักพักก็เจอหินก้อนใหญ่ที่มีเวิ่งเหมือนถ้ำตื้นๆอยู่ เลยได้เข้าไปหลบฝนกันค่ะ
|
ถ่ายจากที่หลบฝนค่ะ |
หลบฝนรอพักใหญ่ๆ พอฝนหยุดก็ออกเดินต่อค่ะ ป้ายหน้า “ผาชูงธง” วิวจากจุดนี้ก็สวยดีค่ะ ดูอยู่พักนึงไปต่อดีกว่าเพราะฝนลงเม็ดมานิดๆอีกแล้ว ทางเดินขากลับนี้ไม่ได้ย้อนกลับทางเดิม แต่วนทวนเข็มนาฬิกาต่อให้ครบรอบค่ะ รู้สึกว่าเดินใกล้กว่าขามา แต่อาจจะเป็นเพราะเรารู้จุดหมายปลายทางแล้วก็เป็นได้
|
วิวจากผาชูธงค่ะ มองไปได้สุดสายตา |
|
ผลจากฝนตกหนัง ต้องเดินฝ่าน้ำไปค่ะ |
|
ลานอเนกประสงค์ ณ ภูหินร่องกล้า |
|
ลานอเนกประสงค์ ณ ภูหินร่องกล้า แอบชอบลานนี้เป็นการส่วนตัวค่ะ มโนไปว่าเป็นปีกนก |
ณ ตอนนี้ก็บ่ายแล้วค่ะ ถามทางพ่อค้าแถวนี้แล้วมุ่งหน้าไปที่ The Blue Sky Resort ต่อเลยค่ะ ข้ามมื้อกลางวันไปอีกแล้ววว
|
กินไอติมแทนข้าวไป 1 ลูก หนาวจะแย่ กินไอติม - -" |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น