สวิฟท์พาเที่ยว ***ตอนที่ 1 ไก่ย่างวิเชียรบุรี – ภูทับเบิก – โรงเตี๊ยม*** |
ต้นกำเนิดทริปเขาค้อนี้เกิดจากการที่เห็นดีลของ Blue sky Khao Kho ในราคาวันธรรมดา 1,999 บาทค่ะ
รีสอร์ทนี้เราเคยเห็นรีวิวสวยๆมาหลายครั้ง อยากไปมากแต่ติดที่ราคาสูงเอาเรื่อง พอมีดีลราคานี้เลยจัดไป 1 คืน ดีลสามารถใช้ได้ช่วงคืนวันอาทิตย์ถึงคืนวันพฤหัสเท่านั้นค่ะ ตอนแรกกะว่าจะพักคือวันอาทิตย์เนอะ จะได้ลางานแค่วันเดียว แต่ทุกๆคนก็คงคิดเหมือนกัน ปรากฏว่าคืนวันอาทิตย์เต็มหมดแล้วค่ะ จำใจจะต้องนอนคืนวันจันทร์แทน แต่การเดินทางจากกทม.ไปเขาค้อ ก็ใช้เวลาหลายชม.จะค้างคืนเดียวก็ยังไงอยู่ เลยตัดสินใจไปวันอาทิตย์กลับอังคาร 3 วัน 2 คืนเกริ่นมาซะยาว เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า
วันอาทิตย์ออกเดินทางไม่เช้ามากค่ะประมาณ 8 โมงกว่าๆ ทานข้าวเช้าที่บ้านก่อน เราเดินทางด้วยน้องNew Suzuki Swiff Eco car คู่ใจเครื่อง 1254 ซีซี ใช้เวลานานนิดนึงค่ะ คุณแฟนขับไม่เร็วด้วย เน้นปลอดภัยไว้ก่อน ส่วนเราหลับตั้งแต่ขึ้นรถได้ไม่นาน โดนปลุกขึ้นมาอีกทีตอนอยู่รังสิต คุณแฟนถามว่าเอากระเป๋าถือมารึเปล่า....เอ้อ....นอกจากไม่ได้วางแผนการเดินทางแล้วยังลืมกระเป๋าตังค์และแป้งด้วยค่ะ รวมๆมีเงินติดตัวอยู่ 3,100 บาทสำหรับค่าที่พักอีก 1 คืนและอาหาร 8 มื้อ (ค่าน้ำมันรถรูดบัตรได้ ดีนะที่มีบัตรเครดิตติดตัว)
วิธีการเดินทางไปBlue sky เขาค้อ [ข้อมูลจาก The Blue Sky Resort]
- ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงสระบุรี กม.125 เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 21
- ขับสบายๆ บน 21 ผ่าน อ.ชัยบาดาล อ.ศรีเทพ…อ.วิเชียรบุรี
- ขับสบายๆ อีก 1 ชั่วโมง ถึงแยกวังชมพู
- แนะนำเลี้ยวซ้ายใช้เส้น 21 By Pass เลี่ยงเข้าเมือง...ขับผ่านสนามบิน
- ขับผ่านแยก อ.เขาค้อ (อย่าเลี้ยวซ้ายไปเส้นนี้ : ถนนขับยาก)
- ประมาณ 10 กม. ก่อนถึงหล่มสักให้เลี้ยวซ้ายไปเส้นพิษณุโลก
- ขับขึ้นเขาไปตามเส้น 12 ที่สวยมากประมาณ 25 นาที ถึงสามแยกไฟแดง
- ขับช้าๆ ผ่านแยกไฟแดงจะพบปั๊มบางจาก... แนะนำให้กลับรถที่ปั๊มบางจาก จะพบทางเข้ารีสอร์ท
- Total ขับรถ ∼ 5 ชั่วโมง
- สอบถามเส้นทางเพิ่มเติม 081-0408824 (คุณเอ๋)
มื้อแรกของทริปนี้คือไก่ย่างวิเชียรบุรีค่ะ ดูรีวิวคนส่วนใหญ่เดินทางเส้นนี้ก็ต้องมากินไก่ย่างวิเชียรบุรีกันทั้งนั้น เราเลือกร้าน "ไก่ย่างบัวตอง"เพราะป้ายใหญ่สุด ดูร้านใหญ่มีที่จอดรถด้วย ลองแล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ อาหารอร่อยดี รสชาติร้านนี้แบบหวานนำเค็มตาม เผ็ดตามมาหลังสุด คนทานเผ็ดไม่ได้ก็ยังพอทานได้นะ แต่ต้องระวังมดกับแมงหวี่นิดนึงค่ะ ค่อนข้างเยอะ หรือเราอาจจะนั่งโต๊ะที่อยู่ใกล้มดพอดี กว่าจะทานเสร็จโดนกัดไปหลายตุ่มเชียว
ทานอะไรติ๊กเลย
|
ไก่บ้านย่างบัวตองครึ่งตัว 90 บาท ไก่มีรสชาติแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลย แต่ถ้าจิ้มก็ได้รสอีกแบบนะคะ |
น้ำจิ้มก็ออกหวาน
|
ต้มแซ่บหมู 60 บาท แซ่บค่ะ แรกๆไม่เผ็ด ทานไปนานๆ ก็เผ็ดอยู่นะ
|
ข้าวเหนียวห่อใบตอง 15 บาท หอมนุ่มมาเลย
|
ยำตะไคร้ 60 บาท เปรี้ยวหวาน ตะไคร้เยอะดี ไม่เผ็ดค่ะ
|
ท้องอิ่มแล้วก็เดินทางต่อได้ เราตัดสินใจที่จะขึ้นไปบนภูทับเบิกก่อนค่ะ ในแผนที่ของบลูสกายเขียนไว้ว่าภูทับเบิกไกลและอาจไม่คุ้มที่จะไป เรากะว่าถ้าราคาที่พักแพงมากก็จะลงมาภูแก้วรีสอร์ทข้างล่างแทน ที่กล้าคิดแบบนี้เพราะไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมาเลย แต่ไม่นานนักความคิดนี้จะเปลี่ยนไป....
ระยะทางอาจจะไม่ไกลมากถ้าเป็นพื้นราบค่ะ แต่!!ทางขึ้นภูทับเบิกคดโค้งน่าดู แค่ดูจาก google mapก็เพลียแล้ว ขับขึ้นจริงยิ่งเพลียกว่า ภูนี้จัดเต็มมาทั้งโค้งหักศอก ทั้งชันพร้อมๆกัน ขับไปซักพักคุณแฟนก็เอ่ยขึ้นว่า “พักข้างบนเถอะนะ” จ้ะลงไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
A ทางขึ้นภูทับเบิกสุดโหด
B ทางแยกไปภูหินร่างกล้า ร้านขายของ บ้านกาแฟคุณกระแต
C ภูทับเบิก
D เส้นทางสู่ภูหินร่องกล้า
|
จอดรถดูวิวซักพักแล้วก็ขับขึ้นภูต่อ
|
ถึงทางจะยากแต่วิวที่ได้เห็นก็คุ้มนะคะ
|
ขับกันไปเรื่อยๆค่ะ ทริปนี้ไม่ต้องกลัวไม่ได้เจอหมอกแล้ว เพราะหมอกมารออยู่ตรงหน้าแล้วค่ะ
ขับผ่านร้านดัง "ตำนานแห่งขุนเขา"
|
ขับไปจนไปถึงทางแยกเข้าภูหินร่องกล้าหรือไปภูทับเบิกค่ะ มีที่จอดพักรถดูวิวด้วย ตรงจุดเดียวกันนี้จะมีแผงขายผักผลไม้พวกมันเกาหลี ลูกพลับ มินิแครอทและ มีบ้านกาแฟคุณกระแตอยู่ด้วยค่ะ ขายของชำและขนมจีบซาลาเปาด้วย พี่เจ้าของร้านใจดีค่ะ เราพูดคุยสอบถามเรื่องอากาศบ้านพักกันไปตามประสาคนเดินทางก่อนตุนเสบียงขึ้นไป ซาลาเปาลูกละ 10 บาท มี 4 รส(งาดำ หมูสับ หมูแดง ครีม) เราได้อาศัยเข้าห้องน้ำที่นี่ค่ะสะอาดใช้ได้
มองย้อนกลับไปทางที่ขับขึ้นมาซะหน่อย
|
มันเกาหลีเผาสุกแล้ว 20 บาท คงแปลกดีถ้าขาย "มันเผานะแต่ยังไม่สุก"
|
พลับหวาน ซื้อแล้วให้เค้าช่วยปอกให้ได้ค่ะ
|
เบบี้แครอท น่าร๊ากกกก
|
ณ หน่วยทับเบิก สูง 1,667 เมตร จากระดับน้ำทะเล
|
ไหนมองลงไปซิ.....
|
บ้านกาแฟคุณกระแต
|
ทางไปภูทับเบิกเลี้ยวขวาค่ะ มีที่พักให้เลือกเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง ส่วนร้านค้าแผงๆปิดหมดเพราะไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวค่ะ บรรยากาศจะเหงาๆนิดนึง ก่อนจะหาที่พัก เราเดินขึ้นไปที่จุดสูงสุดของภูทับเบิกก่อนค่ะ มองเห็นวิวได้แบบ 360 องศาสวยๆ อากาศเย็นสบายค่ะ
ชมวิวพักนึงก็ลงไปหาที่พักดีกว่าค่ะ เน้นที่ราคาถูกมีน้ำอุ่นและทีวีให้ มีน้องหมาตัวนึงคอยต้อนรับตั้งแต่บนจุดชมวิว เดินกับเราไปตลอดทาง จนไปถึงร้านขายของชำ เลือกที่พักที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ สีสันสดใส ในราคา 800 บาท ไม่ได้เลือกโลเกชั่นว่าตรงไหนจะตื่นมาเจอหมอกเลย เพราะไม่รู้ค่ะ ฮา...ยึดตรงจุดที่ใกล้จุดสูงสุดของภูไว้ก่อน
ที่โรงเตี๊ยมนอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้ว ยังมีที่พักด้วยนะคะ สำหรับช่วง Low season แบบนี้ ราคา 800 บาทค่ะ เป็นทรงบ้านไม้หลังเล็กๆ ใกล้ๆกับร้านอาหารนี่หละค่ะ
ณ โรงเตี๊ยมภูทับเบิก น้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้กำลังรอต้อนรับลูกค้าอยู่บนลังน้ำแข็งพร้อมกับกัดที่จับฝาลังอย่างเมามัน เราและคุณแฟนเดินเข้าไปนั่งเรียบร้อย พนง.เดินนำเมนูมาให้
เรามองไปที่เมนู ....ไม่มีอาหารจานเดียว เงินในกระเป๋าก็น้อยจะสั่งอะไรดีหละ...ขาหมูหมั่นโถวน่ากินจัง แต่ราคานี้ปริมาณแค่ไหนไม่รู้ จะอิ่มไหม อย่ากระนั้นเลย สั่งกับข้าวมาทานกับข้าวเปล่าก็แล้วกัน
เรา : “กะหล่ำผัดน้ำปลาค่ะ ... แล้วก็ไก่ทอดสมุนไพร ...ข้าวเปล่า 2 จาน” (กะหล่ำ 90 บาท ไก่ 150 บาทพอจ่ายไหวๆ)
แม่ครัว : “ไก่หมดค่ะ”
เรา : .....(แย่แล้ว เอาไงดี..เลื่นสายตามองหาเมนูที่ต่อไป จะกินยำยอดมะระ 150 บาทคู่กับผักก็ยังไงอยู่)....ต้มยำกุ้งแล้วกันค่ะ... (220บาท)
กะหล่ำทอดมาแบบเรียบง่ายมาก รสชาติขื่นเบาๆ ทนกินไป...ต้มยำกุ้งมาแบบหม้อไฟ ใส่กุ้งมาเยอะเลย ก็พอใช้ได้สำหรับราคานี้ ถึงจะสูงไปนิดแต่เข้าใจได้ ว่าค่าขนส่งขึ้นภูคงแพง
กลางคืนของภูทับเบิก มืดลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีแสงสีอะไร สิ่งที่ทำได้มีเพียงนอนดูทีวีในห้องค่ะ เปิดไฟล่อแมลงไว้หน้าห้องด้วย แมลงเยอะจัง นั่งกินเสบียงซาลาเปาที่ซื้อมาตอนแรกนึกว่าจะแข็งแล้วเพราะอากาศเย็นและโดนลม ปรากฏว่านุ่มอร่อย จนอยากจะไปซื้อมาเพิ่ม ฟินกว่ากินที่ร้านโรงเตี๊ยมเยอะเลย วันนี้สารภาพว่าไมได้อาบน้ำค่ะ ไม่ใช่เพราะหนาว
แต่เพราะน้ำไม่ไหลค่ะ เดาเอาเองว่าเค้าลืมเปิดน้ำให้ จะไปตามมาเปิดก็ไม่รู้จะตามที่ไหน กลับบ้านกันไปหมดแล้ว เลยเอาน้ำขวดที่มีให้ 2 ขวดมาล้างหน้าล้างตาแปรงฟันไป
ปิดท้ายด้วยภาพจากหน้าที่พักค่ะ เดี๋ยวไดอารี่บล๊อคหน้าจะพาไปดูทะเลหมอกยามเช้าของภูทับเบิก และภูหินร่องกล้านะคะ ^^
ต่อตอนที่ 2 ที่... สวิฟท์พาเที่ยว ***ตอนที่ 2 ทะเลหมอก - ภูหินร่องกล้า - ลานหินปุ่ม - ผาชูธง**
อาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิภูทับเบิก |
สูง 1,768 เมตร
|
มองลงไปเห็นทางที่เราขับผ่านมาค่ะ เป็นงูเลื้อยเลย |
ทางขึ้นภูทับเบิกอีกมุมนึง |
ชมวิวพักนึงก็ลงไปหาที่พักดีกว่าค่ะ เน้นที่ราคาถูกมีน้ำอุ่นและทีวีให้ มีน้องหมาตัวนึงคอยต้อนรับตั้งแต่บนจุดชมวิว เดินกับเราไปตลอดทาง จนไปถึงร้านขายของชำ เลือกที่พักที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ สีสันสดใส ในราคา 800 บาท ไม่ได้เลือกโลเกชั่นว่าตรงไหนจะตื่นมาเจอหมอกเลย เพราะไม่รู้ค่ะ ฮา...ยึดตรงจุดที่ใกล้จุดสูงสุดของภูไว้ก่อน
800 บาท สร้างเสร็จใหม่ๆ พลาสติกซิลอุปกรณ์บางจุดยังไม่แกะเลย มีน้ำเปล่าให้ 2 ขวด ผ้าขนหนู สบู่ ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น |
ไกด์พิเศษของเรา |
ทำทั้งหน้าที่ไกด์และนายแบบ 100 แอค โปรมากค่ะพูดเลย |
ได้ที่พักสำหรับคืนนี้แล้ว ก็ได้เวลาไปหาข้าวเย็นค่ะ ร้านส่วนมากปิดหมดอย่างที่บอก แต่
“โรงเตี๊ยม ภูทับเบิก” ร้านดังของภูทับเบิกยังเปิดอยู่ค่ะ โรงเตี๊ยมภูทับเบิกขับรถลงไปจากจุดชมวิวไปตามทางเรื่อยๆ ไม่ไกลค่ะที่โรงเตี๊ยมนอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้ว ยังมีที่พักด้วยนะคะ สำหรับช่วง Low season แบบนี้ ราคา 800 บาทค่ะ เป็นทรงบ้านไม้หลังเล็กๆ ใกล้ๆกับร้านอาหารนี่หละค่ะ
ณ โรงเตี๊ยมภูทับเบิก น้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้กำลังรอต้อนรับลูกค้าอยู่บนลังน้ำแข็งพร้อมกับกัดที่จับฝาลังอย่างเมามัน เราและคุณแฟนเดินเข้าไปนั่งเรียบร้อย พนง.เดินนำเมนูมาให้
เรามองไปที่เมนู ....ไม่มีอาหารจานเดียว เงินในกระเป๋าก็น้อยจะสั่งอะไรดีหละ...ขาหมูหมั่นโถวน่ากินจัง แต่ราคานี้ปริมาณแค่ไหนไม่รู้ จะอิ่มไหม อย่ากระนั้นเลย สั่งกับข้าวมาทานกับข้าวเปล่าก็แล้วกัน
เรา : “กะหล่ำผัดน้ำปลาค่ะ ... แล้วก็ไก่ทอดสมุนไพร ...ข้าวเปล่า 2 จาน” (กะหล่ำ 90 บาท ไก่ 150 บาทพอจ่ายไหวๆ)
แม่ครัว : “ไก่หมดค่ะ”
เรา : .....(แย่แล้ว เอาไงดี..เลื่นสายตามองหาเมนูที่ต่อไป จะกินยำยอดมะระ 150 บาทคู่กับผักก็ยังไงอยู่)....ต้มยำกุ้งแล้วกันค่ะ... (220บาท)
กะหล่ำทอดมาแบบเรียบง่ายมาก รสชาติขื่นเบาๆ ทนกินไป...ต้มยำกุ้งมาแบบหม้อไฟ ใส่กุ้งมาเยอะเลย ก็พอใช้ได้สำหรับราคานี้ ถึงจะสูงไปนิดแต่เข้าใจได้ ว่าค่าขนส่งขึ้นภูคงแพง
กะหล่ำผัดน้ำปลา 90 บาท |
ต้มยำกุ้ง 220 บาท กุ้งเยอะค่ะ อร่อยดี |
กลางคืนของภูทับเบิก มืดลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีแสงสีอะไร สิ่งที่ทำได้มีเพียงนอนดูทีวีในห้องค่ะ เปิดไฟล่อแมลงไว้หน้าห้องด้วย แมลงเยอะจัง นั่งกินเสบียงซาลาเปาที่ซื้อมาตอนแรกนึกว่าจะแข็งแล้วเพราะอากาศเย็นและโดนลม ปรากฏว่านุ่มอร่อย จนอยากจะไปซื้อมาเพิ่ม ฟินกว่ากินที่ร้านโรงเตี๊ยมเยอะเลย วันนี้สารภาพว่าไมได้อาบน้ำค่ะ ไม่ใช่เพราะหนาว
แต่เพราะน้ำไม่ไหลค่ะ เดาเอาเองว่าเค้าลืมเปิดน้ำให้ จะไปตามมาเปิดก็ไม่รู้จะตามที่ไหน กลับบ้านกันไปหมดแล้ว เลยเอาน้ำขวดที่มีให้ 2 ขวดมาล้างหน้าล้างตาแปรงฟันไป
ปิดท้ายด้วยภาพจากหน้าที่พักค่ะ เดี๋ยวไดอารี่บล๊อคหน้าจะพาไปดูทะเลหมอกยามเช้าของภูทับเบิก และภูหินร่องกล้านะคะ ^^
ถนนเส้นเล็กๆบนภูทับเบิกค่ะ ไม่มีไฟถนนนะ มีแต่ไฟรีสอร์ท แต่ภาพนี้รถวิ่งมาพอดี เลยมีแสงจากไฟรถ ^^ |
ต่อตอนที่ 2 ที่... สวิฟท์พาเที่ยว ***ตอนที่ 2 ทะเลหมอก - ภูหินร่องกล้า - ลานหินปุ่ม - ผาชูธง**
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น